อีกไม่ถึงสองเดือนก็จะได้เจอกับลูกชายสุดที่รักแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณลูกชายเค้าจะตื่นเต้นกับการที่เราสามคนพ่อแม่ลูกจะได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรกมากแค่ไหน แต่ขอบอกว่า พ่อกับแม่ตื่นเต้นมากที่สุดในสามโลกเลยล่ะค่ะ^^
แรกๆเคยคิดว่าทำไมเวลาเดินไปช้าจัง หึ่ยยย...กว่าจะผ่านไปแต่ละวันแต่ละอาทิตย์ช่างเนิ่นนาน ก่อนหลับตานอนทุกคืนก็ลูบพุงตัวเองแล้วก็เฝ้าดราม่าว่าเมื่อไหร่หนอชั้นถึงจะได้เจอกับเจ้าตัวแสบในพุงเสียที...แต่พอเข้าไตรมาสที่ 3 เท่านั้นล่ะค่ะ เวลากลับเดินทางรวดเร็วอย่างกับติดจรวด อีกแป๊บเดียวเท่านั้น...โอ๊ย ยิ่งคิดยิ่งตื่นเต้น
ถ้าถามถึงความพร้อมในการเตรียมตัวต้อนรับสมาชิกใหม่ ก็...ยังงงๆอยู่ค่ะ เหมือนจะพร้อม แต่ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ คำว่าพร้อมไม่พร้อมของพิมตัดสินจากข้าวของที่ได้ตระเตรียมไว้ตาม baby checklist ที่ทำไว้ค่ะ คือ ณ ตอนนี้ก็ยังมีของบางอย่างที่ยังไม่ได้ซื้อ เพราะมีคุณแม่รุ่นพี่กระซิบมาว่าให้อั้นๆเอาไว้บ้าง วันที่ 2-5 ส.ค.นี้จะมีงาน Thailand Baby and Kids Best Buy ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติ สิริกิติ์ ด้วยความงกเลยเบรคๆตัวเองไว้เวลาไปเดินห้าง เผื่อจะซื้อของให้ลูกในราคาดีๆได้ในงาน
การที่เราทำ baby checklist ไว้ก่อนที่จะลงสนามช้อปปิ้งจริงนี่เป็นอะไรที่อยากจะแนะนำคุณแม่มือใหม่ทุกๆคนมากๆเลยค่ะ สำหรับพิมแล้ว baby checklist นี่มีประโยชน์มากๆ เพราะนอกจากจะช่วยจัดระเบียบชีวิต ทำให้เราตระเตรียมข้าวของให้ลูกตามสไตล์การเลี้ยงลูกของเราได้อย่างไม่ตกหล่นแล้ว ยังทำให้เราเห็นงบประมาณคร่าวๆที่เราจะต้องใช้ซื้อข้าวของให้ลูกได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ คือ ตอนทำ checklist พิมจะพยายามระบุราคาคร่าวๆลงไปด้วยทุกครั้งค่ะ พอทำเสร็จปุ๊บ ก็จะได้ค่าใช้จ่ายคร่าวๆออกมา ก็เอาตัวเลขกลมๆตรงนี้ไปยื่นให้คุณพ่อยุ่นได้ทำใจก่อน จะได้ไม่ช็อคมากตอนจ่ายเงินค่ะ 555
ไหนๆก็พูดถึงเรื่อง baby checklist แล้ว วันนี้เลยอยากจะขออนุญาตเอา baby checklist ของตัวเองมาแฉค่ะ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยกับว่าที่คุณแม่มือใหม่หลายๆคนที่อาจจะกำลังสาละวนกับการทำ baby checklist ของตัวเองอยู่นะคะ^^ และถ้าคุณแม่มือโปรท่านไหนผ่านมาอ่าน อยากจะแนะนำอะไรเพิ่มเติม ก็เชิญได้ตามสะดวกเลยนะคะ
Baby Checklist ของพิมแบ่งออกเป็นหมวดใหญ่ๆตามนี้นะคะ
แรกๆเคยคิดว่าทำไมเวลาเดินไปช้าจัง หึ่ยยย...กว่าจะผ่านไปแต่ละวันแต่ละอาทิตย์ช่างเนิ่นนาน ก่อนหลับตานอนทุกคืนก็ลูบพุงตัวเองแล้วก็เฝ้าดราม่าว่าเมื่อไหร่หนอชั้นถึงจะได้เจอกับเจ้าตัวแสบในพุงเสียที...แต่พอเข้าไตรมาสที่ 3 เท่านั้นล่ะค่ะ เวลากลับเดินทางรวดเร็วอย่างกับติดจรวด อีกแป๊บเดียวเท่านั้น...โอ๊ย ยิ่งคิดยิ่งตื่นเต้น
ถ้าถามถึงความพร้อมในการเตรียมตัวต้อนรับสมาชิกใหม่ ก็...ยังงงๆอยู่ค่ะ เหมือนจะพร้อม แต่ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ คำว่าพร้อมไม่พร้อมของพิมตัดสินจากข้าวของที่ได้ตระเตรียมไว้ตาม baby checklist ที่ทำไว้ค่ะ คือ ณ ตอนนี้ก็ยังมีของบางอย่างที่ยังไม่ได้ซื้อ เพราะมีคุณแม่รุ่นพี่กระซิบมาว่าให้อั้นๆเอาไว้บ้าง วันที่ 2-5 ส.ค.นี้จะมีงาน Thailand Baby and Kids Best Buy ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติ สิริกิติ์ ด้วยความงกเลยเบรคๆตัวเองไว้เวลาไปเดินห้าง เผื่อจะซื้อของให้ลูกในราคาดีๆได้ในงาน
การที่เราทำ baby checklist ไว้ก่อนที่จะลงสนามช้อปปิ้งจริงนี่เป็นอะไรที่อยากจะแนะนำคุณแม่มือใหม่ทุกๆคนมากๆเลยค่ะ สำหรับพิมแล้ว baby checklist นี่มีประโยชน์มากๆ เพราะนอกจากจะช่วยจัดระเบียบชีวิต ทำให้เราตระเตรียมข้าวของให้ลูกตามสไตล์การเลี้ยงลูกของเราได้อย่างไม่ตกหล่นแล้ว ยังทำให้เราเห็นงบประมาณคร่าวๆที่เราจะต้องใช้ซื้อข้าวของให้ลูกได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ คือ ตอนทำ checklist พิมจะพยายามระบุราคาคร่าวๆลงไปด้วยทุกครั้งค่ะ พอทำเสร็จปุ๊บ ก็จะได้ค่าใช้จ่ายคร่าวๆออกมา ก็เอาตัวเลขกลมๆตรงนี้ไปยื่นให้คุณพ่อยุ่นได้ทำใจก่อน จะได้ไม่ช็อคมากตอนจ่ายเงินค่ะ 555
ไหนๆก็พูดถึงเรื่อง baby checklist แล้ว วันนี้เลยอยากจะขออนุญาตเอา baby checklist ของตัวเองมาแฉค่ะ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยกับว่าที่คุณแม่มือใหม่หลายๆคนที่อาจจะกำลังสาละวนกับการทำ baby checklist ของตัวเองอยู่นะคะ^^ และถ้าคุณแม่มือโปรท่านไหนผ่านมาอ่าน อยากจะแนะนำอะไรเพิ่มเติม ก็เชิญได้ตามสะดวกเลยนะคะ
Baby Checklist ของพิมแบ่งออกเป็นหมวดใหญ่ๆตามนี้นะคะ
- Baby Gear
- Infant Care
- Clothing
- Breast-feeding
- Nursery
- Misc.
Baby
Gear
1. คาร์ซีท
คาร์ซีทที่พิมกับยุ่นเลือกให้เจ้าวู้ดไพล์คือยี่ห้อ
AILEBEBE รุ่น
Kurutto Premium ซื้อตอนที่ยังอยู่ที่ญี่ปุ่นค่ะเลยได้ราคาที่ถูกกว่าที่เมืองไทยมากๆ
เจ้าคาร์ซีทรุ่นนี้ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของกระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นค่ะ
(แต่หลายๆรุ่นของ AILEBEBE ผ่านมาตรฐานของยุโรปนะคะ) ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดน้ำหนัก 2,500 กรัมขึ้นไปจนถึง
18 กิโลกรัมหรือ 4
ขวบโดยประมาณค่ะ
ตัวคาร์ซีทหมุนได้ 360 องศาเอื้อความสะดวกเวลาอุ้มลูกขึ้นลงรถ
มีเบาะเสริมรองรับบริเวณคอกับหลังสำหรับทารกแรกเกิดที่ออกแบบมาให้เหมือนกับการโอบอุ้มของคุณแม่
เข็มขัดรัด 5 จุด
มีขาตั้งช่วยยึดพื้นรถอีกแรงเพื่อป้องกันคาร์ซีทคว่ำมาด้านหน้า ปรับเอนได้ 3
ระดับ
(เฉพาะเวลาที่หันหน้าออกเท่านั้นนะคะ) ผ้าหุ้มตัวเบาะทำจาก mesh มีรูระบายอากาศขนาดใหญ่ช่วยเรื่องการระบายความร้อนได้ดี
เห็นแม่ๆชาวญี่ปุ่นเขียนรีวิวกันไว้ว่าคาร์ซีทรุ่นนี้นี่ลูกน้อยนั่งสบายมาก จับลงปุ๊บ
ไม่มีงอแง หลับกันพริ้มเพราะนอน/นั่งสบาย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่วู้ดไพล์จะพริ้มกับเขารึเปล่า
หรือจะร้องแคว่กๆๆจะไม่ยอมนั่งท่าเดียว ยังไงไว้ได้ใช้จริงเมื่อไหร่จะมารีวิวให้ฟังอีกทีนะคะ
(พิมแนบ link
จากเว็บแม่ที่ญี่ปุ่นมาให้นะคะ http://www.carmate.co.jp/ailebebe/lineup/kurutto.html ตรงหัวข้อ MOVIE
มีคลิป 3
คลิปให้ดูเพลินๆค่ะ
บรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ดูจากภาพเคลื่อนไหวก็น่าจะพอเข้าใจได้นะคะ)
2. แผ่นรองคาร์ซีท
ยี่ห้อ DiONO(ディオノ)
วัสดุที่ใช้ทำเป็น PVC ใช้รองก่อนติดตั้งคาร์ซีทกันเบาะหนังของรถเป็นรอยค่ะ
3. กระจกมองหน้าลูกในรถ
เอาไว้แอบมองลูกเวลาที่เราขับรถในช่วงขวบปีแรกของลูกที่ต้องถูกจับนั่งคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าเบาะค่ะ
ขับรถไปแอบมองหน้าลูกน้อยไป อุ่นใจตลอดเล้นทาง^^
จริงๆแล้วกระจกแบบนี้ไม่ใช่แค่เอาไว้ให้คุณพ่อคุณแม่มองหน้าลูกนะคะ
เพราะลูกเองก็ยังสามารถเล่นกับตัวเองงุ้งงิ้งๆในกระจกได้ด้วยค่ะ ถือเป็นของเล่นเสริมพัฒนาการไปในตัวด้วย
4. รถเข็นเด็ก
รถเข็นเด็กนี่เลือกซื้อกันตามไลฟสไตล์ของแต่ละบ้านเลยค่ะ
พิมคิดว่าไม่สามารถพูดได้เลยว่ามีรถเข็นเด็กรุ่นไหนที่ดีที่สุดในโลก
และเหมาะสำหรับทุกๆคน แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อต่างมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไปค่ะ
ก็ต้องค่อยๆหาข้อมูล ค่อยๆเปรียบเทียบ เลือก และลองกันไป กว่าพิมกับยุ่นจะเลือกรถคันแรกให้พี่วู้ดไพล์ได้นี่ใช้เวลาหาข้อมูลอยู่นานพอสมควรเลยค่ะ
ไปลองที่สัมผัสของจริงที่ shop มาหลากหลายยี่ห้อ และสุดท้ายก็ได้พบกับรถเข็นที่ถูกใจ และอยู่ในงบประมาณที่เราตั้งไว้
(จริงๆมีถูกใจกว่านี้นะคะ แต่...เกินงบที่ตั้งไว้ เลยต้องตัดใจค่ะ)
รถเข็นเด็กที่พิมกับยุ่นเลือกให้วู้ดไพล์
คือ combi รุ่น
XB-600 จากซีรี่ส์
Diaclasse Auto 4 Cas ค่ะ
มีด้วยกัน 3 สี
คือสีเนวีบลู สีเบจ แล้วก็สีดำ เพิ่งออกขายที่ญี่ปุ่นเมื่อปลายเดือนก.พ.ของปีนี้ค่ะ พิมกับยุ่นเลือกเป็นสีดำ ดูแมนๆเหมาะกับเด็กชายดี
ตามรูปนี้เลยค่ะ
ก่อนจะซื้อเราสองคนก็ไปลองเข็นที่
アカチャンホンポ
มาค่ะ (アカチャンホンポ หรือ อะกะจังฮมโปะ : คือห้างที่ขายข้าวของเครื่องใช้ของแม่และเด็ก
เป็นห้างแบบวันสต๊อปช้อปปิ้ง ครบวงจรมากๆ พิมกับยุ่นเดินได้เป็นวันๆไม่มีเบื่อ ครอบครัวไหนมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น
ห้ามพลาดห้างนี้เด็ดขาดนะคะ)
ถูกใจรุ่นนี้ตรงที่เข็นง่ายลื่นปรื๊ดมาก
ลองเอาของหนักๆมาวางบนเบาะสมมติว่าเป็นน้ำหนักตัวของลูกก็ยังเข็นด้วยมือเดียวได้สบายๆ
เวลาเลี้ยวโค้งก็ไม่มีติดขัด วงเลี้ยวแคบมาก ซ่อกแซ่กไปมาตามซอกซอยในห้างได้ดี เวลาพับเก็บก็เป็นชิ้นเดียวกันแถมทำได้ด้วยมือเดียวไม่ต้องก้มๆเงยๆให้เมื่อยหลัง
เวลาจะใช้ก็ง่ายมากๆค่ะ กระตุกปรึ๊ดเดียวกางออกมาสวยงามพร้อมใช้ handleของรถเข็นก็ปรับได้หลายระดับค่ะ
ซัพพอร์ตทั้งคุณพ่อที่ตัวสูงอย่างคุณพ่อยุ่น และคุณแม่ที่ตัวเล็กอย่างพิม
รุ่นนี้มีฟีเจอร์ใหม่
2 ฟีเจอร์ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ชีวิตมากขึ้นด้วยค่ะ
ฟีเจอร์แรกคือ สามารถพับเก็บรถเข็นได้เลยแม้ในขณะที่เบาะอยู่ในลักษณะถูกกางออกอยู่
และฟีเจอร์ที่สองคือเวลาจะปลดล็อคเบรค ไม่ต้องใช้ปลายเท้าจิกขึ้นแบบเดิมซึ่งตรงนี้เป็นปัญหาสำหรับแม่ๆที่รักรองเท้ามากๆ
เพราะจะทำให้หัวรองเท้าเป็นรอย
ลองตามลิงค์ด้านล่างนี้เข้าไปดูนะคะจะเห็นภาพมากขึ้นค่ะ (เข้าไปแล้วเลื่อนลงมาด้านล่างจะมีคลิปสาธิตฟีเจอร์ใหม่อยู่
2 คลิปค่ะ)
ด้านหลังของเบาะนั่งมีช่องระบายอากาศแบบเปิดปิดได้โดยจะช่วยลดอุณหภูมิที่หลังของลูกลงได้ประมาณ
4 องศา
มี egg shock ซึ่งเป็นนวัตกรรมเฉพาะของ
combi ช่วยป้องกันการกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะของลูกได้ดีเยี่ยม มี soft-suspension
ช่วยให้เข็นได้อย่างนุ่มนวล ที่บังแดดก็ใหญ่โตน่า ด้านบนของที่บังแดดมีช่องตาข่ายไว้ใช้ส่องดูลูกได้ด้วยค่ะ
เข็นได้ทั้งแบบ rear-facing และ forward-facing แต่เวลาจะปรับคันโยกคงต้องระวังให้มาก แอบกลัวเหมือนกันค่ะว่าถ้าไม่ดูให้ดีอาจจะไปหนีบนิ้วลูกได้
น้ำหนักถือว่าไม่เบาเท่าไหร่อยู่ที่ประมาณ 7 กิโลครึ่ง ถ้าต้องยกขึ้นลงรถคนเดียวก็คิดว่าสบายๆไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
แต่ถ้าเป็นจังหวะที่ยุ่นไม่ได้อยู่ด้วย ประมาณว่าพิมออกไปซิ่งกับวู้ดไพล์แค่สองคน
แล้วบังเอิญมีเหตุให้ต้องทั้งอุ้มลูกด้วยหอบรถเข็นลูกขึ้นลงบันไดด้วย คงจะเหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกันค่ะ
รถเข็นรุ่นนี้ระบุให้ใช้ได้เมื่อลูกน้อยมีอายุ 1 เดือนขึ้นไปค่ะ
และใช้ได้ไปจนถึงอายุประมาณ 36 เดือน หรือประมาณ 3 ขวบค่ะ
ที่เขียนมาอาจจะไม่เห็นภาพมากนัก
เดี๋ยวรอให้ได้ใช้จริงก่อน
จะมารีวิวพร้อมรูปถ่ายและคลิปวิดีโอประกอบแบบเต็มคราบให้ได้ดูกันนะคะ
5. ที่แขวนกระเป๋าคุณแม่ ที่หนีบผ้าห่ม ที่วางขวดน้ำ
ทั้งหมดจัดมาใน
theme พี่มิกกี้ค่ะ
6. ที่คลุมรถเข็นกันฝน
ไอเท็มนี่จริงๆแล้วก็ไม่ได้จำเป็นซักเท่าไหร่ แต่ก็ซื้อมาไว้ก่อนเผื่อมีจังหวะที่เข็นลูกออกไปเดินรับลม
แล้วฝนดันตกลงมาแบบไม่ทันตั้งตัวค่ะ รุ่นนี้มีซิบเปิดด้านหน้าสามารถเอาลูกเข้าออกรถเข็นได้สะดวกโดยที่ไม่ต้องถอดที่คลุมกันฝนออกค่ะ
ฮี่ๆ แล้วก็มีลายจุดที่แม่ชอบด้วย
7. เป้อุ้มเด็ก
อันนี้เป็นของยี่ห้อ
Baby Bjorn รุ่น
synergy ได้รับอภินันทนาการมาจากพี่สาวของพิมเองค่ะ ฮี่ๆ
ขอบคุณป้าปลานะคะ บุญหล่นทับจริงๆ รุ่นนี้พี่สาวบอกต่อมาว่าซัพพอร์ตหลังดีค่ะ
อุ้มนานๆก็ไม่ค่อยเมื่อย ตัวเป้อุ้มทำจาก mesh
ซึ่งจะช่วยเรื่องการระบายอากาศได้ดี
เหมาะกับเมืองที่มีอากาศร้อนระอุแบบพี่ไทยบ้านเรามากค่ะ
อุ้มได้ทั้งแบบหันลูกเข้าหาตัวเรา หรือหันหน้าออกก็ได้ พิมลองสวมดูแล้ว
ใส่ง่ายไม่ซับซ้อนค่ะ (แหม...พอเป็นของฟรีล่ะก็ง่ายเลยนะ!) ลูกเกิดมาปุ๊บจับใส่เป้อุ้มเลยไม่ได้นะคะ
ต้องดูน้ำหนักและส่วนสูงของลูกเราก่อน เพราะทางผู้ผลิตแนะนำว่าใช้จะอุ้มลูกได้ก็ต่อเมื่อลูกมีน้ำหนักตัวอย่างน้อยที่สุด
3,500 กรัม
และมีส่วนสูง 53 ซม.เป็นต้นไป
และรองรับน้ำหนักลูกได้สูงสุดถึงประมาณ 12 กิโลกรัมค่ะ